วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

ขนมกล้วย





ส่วนผสม

     - กล้วยน้ำว้า 8 - 10 ลูก (ปอกเปลือกและบดให้เละ)

     - แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง

     - แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง

     - น้ำตาล 1 1/4 ถ้วยตวง

     - เกลือป่น 1/2 ช้่อนชา

     - หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง

     - เนื้อมะพร้าวขูด 2 ถ้วยตวง

 วิธีทำ
     1. นำกล้วย, แป้งข้าวเจ้า, แป้งมัน, น้ำตาล, เกลือ, หัวกะทิ และ เนื้อมะพร้าวขูด (ประมาณ 3/4 ส่วนของทั้งหมด) ผสมกัน จากนั้นนวดด้วยมือจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว

     2. ตักส่วนผสมในข้อหนึ่งลงในถ้วยหรือแบบที่ต้องการ หรือจะใช้ใบตองห่อก็ได้ แล้วแต่ความสะดวก เสร็จแล้วนำเนื้อมะพร้าวขูดที่เหลือโรยหน้า

     3. นำไปนึ่งประมาณ 30 นาที หรืออาจนำไปอบโดยใช้ความร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส (360 องศาฟาเรนไฮต์) เป็นเวลา 30 นาทีเช่นกัน

     4. เมื่อขนมกล้วยสุกแล้ว ให้นำออกจากแบบ สามารถเสริฟได้ทั้งขณะร้อนหรือเย็นแล้ว



วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

เม็ดขนุน



เม็ดขนุน

 ส่วนผสม
            - ถั่วเขียวเลาะเปลือก 450 กรัม

            - น้ำตาลทราย 200 กรัม (สำหรับผสมถั่ว)

            - น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)

            - น้ำกะทิ 400 กรัม

            - น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)

            - ไข่เป็ด 5 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)







วิธีทำ


1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)

2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี

3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้)

4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงเม็ดขนุน

5. ทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตาลและน้ำเปล่า นำไปเคี่ยวในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้) จนเหนียวข้นเป็นยางมะตูม จึงปิดไฟ

6. ตอกไข่และเลือกเอาเฉพาะไข่แดงมารวมกัน เขี่ยพอให้ไข่แดงแตก จากนั้นจึงนำเม็ดขนุนที่ปั้นเตรียมไว้ใส่ลงไปแช่ในไข่แดงทีละเม็ด แล้วจึงนำไปใส่ในน้ำเชื่อม พยายามอย่าให้ติดกัน พอใส่ลงไปมากแล้วจึงนำกระทะไปตั้งบนไฟอ่อนๆจนสุกทั่งจึงตักออกมาพัก ทำซ้ำเช่นนี้จนเม็ดขนุนที่ปั้นไว้หมด

7. จัดเม็ดขนุนใส่จาน เสริฟทานเป็นของว่างในวันสบายๆ






วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทองหยอด

ขนมหวานไทย : ขนมทองหยอด
ขนมหวานไทย : ขนมทองหยอด
ขนมทองหยอด

ส่วนผสม

     -ไข่เป็ด 18 ฟอง

     - แป้งทองหยอด 1 ถ้วยตวง (หรือแป้งข้าวเจ้า)

     - น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง

     - น้ำลอยดอกมะลิ 5 ถ้วยตวง


วิธีทำ

     1. ผสมน้ำลอยดอกไม้กับน้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง แล้วนำไปตั้งไฟแรงให้เดือด เคี่ยวทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงแบ่งน้ำเชื่อมส่วนหนึ่งออกมาสำหรับแช่ทองหยอดที่สุกแล้ว

     2. ต่อยไข่ แยกไข่ขาวออก ใช้เฉพาะไข่แดง โดยนำไข่แดงไปกรองในผ้าขาวบางเพื่อรีดเอาเยื่อออก จากนั้นจึงตีไข่แดงให้ขึ้นฟู จากนั้นค่อยๆผสม แป้งทองหยอดลงไปและคนให้แป้งและไข่แดงเข้ากัน


     3. นำไข่แดงที่ผสมแป้งเรียบร้อยไปหยอดในน้ำเชื่อม สำหรับวิธีหยอดนั้นให้ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง หยิบส่วนผสมมาเป็นลูกขนาดพอประมาณ แล้วจึงสบัดลงไปในน้ำเชื่อม ทำเช่นนี้จนเต็มกระทะทองเหลือง จากนั้นรอจนทองหยอดสุกจึงตักออกมาพักใส่ในน้ำเชื่อมที่แยกไว้ก่อนหน้านี้ (ทองหยอดที่สุกจะลอยขึ้น)

     4. จัดทองหยอดใส่จานเสริฟเป็นของว่างหรือของทานเล่นในวันพักผ่อนสบายๆ

ขนมตะโก้


สูตรขนมตะโก้

ส่วนผสม (สำหรับทำตัวตะโก้)

    - แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วยตวง

    - น้ำกลิ่นมะลิ 3 ถ้วยตวง

    - น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง

    - น้ำใบเตยคั้น 1/2 ถ้วยตวง

    - แห้วต้มหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง

    - กระทงหรือแบบสำหรับใส่ขนม

ส่วนผสม (สำหรับทำตัวตะโก้)

    - แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง

    - กะทิ 2 ถ้วยตวง

    - เกลือป่น 1 ช้อนชา


วิธีทำ

1. เตรียมทำตัวตะโก้ โดยผสมแป้งถั่วเขียว, น้ำตาลทราย, น้ำใบเตยและ น้ำกลิ่นมะลิ เข้าด้วยกันในหม้อ และนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กวนจนสุกและข้น

2. จากนั้นใส่แห้วจีนต้มที่หั่นเตรียมไว้ลงไปในหม้อ กวนต่ออีกสักครู่จึงปิดไฟ ตักตัวตะโก้หยอดในกระทงหรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้ประมาณครึ่งนึงของแบบ

3. เตรียมทำหน้าตะโก้ โดยผสมแป้งข้าวเจ้า, กะทิ และเกลือป่น เข้าด้วยกันในหม้อขนาดเล็ก จากนั้นนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กวนจนข้นพอดี จึงปิดไฟ

4. หยอดหน้าตะโก้ลงบนกระทงหรือแบบให้เต็ม ทิ้งไว้ให้เย็น จัดใส่จานเสริฟเป็นของว่างได้ทันที

ทับทิมกรอบ


การทำทับทิมกรอบสูตรโบราณ

ส่วนผสม

     - เนื้อแห้ว จะใช้แห้วต้มหรือแห้วดิบที่ปอกเปลือกไว้แล้วนำมาต้มก็ได้ (มีขายแบบสำเร็จรูป)

     - น้ำตาลทราย

     - กะทิสด

     - เกลือป่น

     - น้ำหวานสีแดง

     - เทียนอบ

     - มะพร้าวกะทิ หรือมะพร้าวอ่อน

     - ใบเตย

     - เปลือกไข่

     - แป้งมัน

    - น้ำแข็งบดละเอียด


วิธีทำทับทิมกรอบรวมมิตร

      1. ขั้นตอนแรกทำน้ำเชื่อม นำน้ำตาลทรายใส่ภาชนะเติมน้ำแล้วตั้งไฟเคี้ยวไฟกลางใส่ใบเตยที่เตรียมไว้เพื่อให้มีกลิ่นหอม และใส่เปลือกไข่ลงไปเพื่อให้น้ำเชื่อมสีสวยใส เคี้ยวจนน้ำเชื่อมข้นแล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบางแล้วพักไว้

      2. ขั้นตอนการทำทับทิมกรอบ นำแห้วมาหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป จากนั้นนำมาคลุกกับน้ำหวานสีแดงทิ้งไว้สักพัก แล้วนำมาคลุกกับแป้งมันที่เตรียมไว้ แล้วนำไปล่อนในตระเกรงเพื่อให้เศษแป้งมันหลุดเหลือแต่เม็ดทับทิมกรอบที่คลุกแป้ง

      3. ขั้นตอนการลวกทับทิมกรอบ นำภาชนะใส่น้ำตั้งไฟพอเดือน ใส่ทับทิมกรอบที่คลุกแป้งลงไปหากทำมากไม่ควรใส่ลงไปพร้อมๆกันทั้งหมด ให้ค่อยๆลวกไปที่ละน้อยจะทำให้ได้ทับทิมกรอบที่สวยแป้งไม่สุกมากเกินไป เมื่อใส่ทับทิมกรอบลงไปแล้วรอให้เม็ดทับทิมลอยตัวขึ้นมา ถึงแม้จะแป้งมันจะไม่สุกยังเป็นสีขาวๆอยู่ก็ต้องตักขึ้นแช่ในน้ำเย็น เพราะความร้อนจะทำให้แป้งมันที่หุ้มเม็ดทับทิมสุกพอดี

      4. ขั้นตอนการทำกะทิสด ควรซื้อมะพร้าวแบบขูดมาคั้นเองโดยนำใส่เครื่องปั่นแล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง จะทำให้ได้หัวกะทิที่เข้มข้น จากนั้นนำกะทิที่ได้ขั้นตั้งไฟใช้ไฟอ่อนๆเติมเกลือเล็กน้อยพอมีรสเค็ม คนไม่ให้กะทิแตกมันจนรู้สึกว่ากะทิสุก ยกลงรอให้กะทิอุ่นๆแล้วอบด้วยควันเทียน

      5. ตักทับทิมกรอบใส่ถ้วยพร้อมมะพร้าวกะทิหรือมะพร้าวอ่อนขุดเป็นเส้น วุ้นกิทิ หรือตามใจชอบเติมน้ำเชื่อม ใส่น้ำแข็งบด แล้วราดด้วยกะทิสด พร้อมเสิร์ฟ

ขนมเปียกปูน


สูตรขนมเปียกปูน(ใบเตย)

ส่วนผสม

    - แป้งเท้า 70 กรัม

    - แป้งข้าวเจ้า 325 กรัม

    - น้ำตาลทราย 300 กรัม

    - น้ำตาลปีบ 500 กรัม

    - ใบเตยขูด 150 กรัม

    - มะพร้าว(ทีนทึก)ขูด 100 กรัม

    - น้ำปูนใส 6 ถ้วย

    - เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. นำส่วนผสมของแป้งเท้า แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปีบ และน้ำตาลทรายมาผสมรวมเข้าด้วยกัน

2. นำใบเตยไปโขลกเมื่อเสร็จแล้วให้นำไปผสมรวมกับน้ำปูนใส1ถ้วยคนให้เข้ากันแล้วใช้ผ้าขาวบางกรอง

3.นำส่วนผสมที่ได้จากการผสมแป้งในข้อที่1มานวดกับน้ำปูนใสที่ได้จากข้อที่ 2 ให้เข้ากันแล้วใช้ผ้าขาวบางกรองอีกครั้งหนึ่ง

4. นำแป้งที่ได้ใส่ในกะทะทองกวนจนกว่าแป้งเหนียว เสร็จแล้วเทใส่ถาดพักให้เย็น ตัดแบ่งออกเป็นชิ้น โรยหรือรองด้วยมะพร้าวทึนทึกขูดคลุกเกลือ

-หมายเหตุ
- น้ำปูนที่ใช้ควรแช่ไว้อย่างน้อย 3 วัน โดยใช้อัตราส่วนของปูนแดงหรือปูนขาว 1 ส่วน ต่อ น้ำ 3 ส่วน แช่ในภาชนะพลาสติก หรือภาชนะเคลือบก้อได้ น้ำทีใช้จะเป็นน้ำที่เราตักเอาแต่ใสๆ
- เทคนิคการกวนที่ถูกวิธีคือกวนไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อจะได้แป้งที่เหนียว

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บัวลอย



สูตรขนมบัวลอย

ส่วนผสม(1)

- แป้งข้าวเหนียว ½ ถ้วยตวงต่อน้ำผัก และดอกไม้ ¼ ถ้วย

- น้ำใบเตย น้ำอัญชัน น้ำกุหลาบ ขมิ้น หรือสีอื่นๆตามที่ต้องการ อย่างละ ¼ ถ้วย


วิธีทำ

นำแป้งข้าวเหนียว และน้ำอุ่น และน้ำใบเตย น้ำกุหลาบ และน้ำดอกอัญชัน (แยกใส่เพื่อให้ได้สีตาม

ต้องการ) จากนั้นคลุกเคล้าและนวดรวมผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วปั้นเป็นลูกกลม ๆ ตามต้องการ


ส่วนผสมของน้ำผสมบัวลอย (2)

- หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร

- หางกะทิ 300 มิลลิลิตร

- น้ำตาลทราย 250 กรัม

- เกลือป่น 2 ช้อนชา


วิธีทำ2

 นำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อแล้วตั้งไฟพอเดือด หรือจนกระทั่งน้ำตาลละลายเป็นอันใช้ได้

วิธีต้มบัวลอย

เมื่อได้แป้งบัวลอยสีตามต้องการแล้ว จากนั้นให้นำไปคลุกกับแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ แล้วนำไปต้มในน้ำ

เดือด วิธีการสังเกตดูว่าถ้าแป้งบัวลอยสุกจะลอยขึ้นมาเป็นอันใช้ได้ ตักชามเสิร์ฟราดด้วยน้ำกะทิอุ่นที่

เตรียมไว้พอท่วม ถ้ามีเนื้อมะพร้าวอ่อนใส่ลงไปด้วยก็อร่อยมากยิ่งขึ้น